การเลือกซื้อรถจักรยานเสือภูเขาสำหรับมือใหม่
สำหรับมือใหม่ที่สนใจจักรยานเสือภูเขาคงจะไม่เข้าใจหรือหาข้อมูลในการช่วย ตัดสินใจในการซื้อจักรยานคันแรกไม่ค่อยได้. บทความแรกของเราจะนำเสนอคู่มือในการเลือกซื้อเสือภูเขาเท่ห์ๆสักคัน ซึ่งในบทความจะประกอบไปด้วย หลักการเลือกซื้อ และอุปกรณ์ที่มือใหม่ควรจะทราบ เริ่มกันเลยดีกว่า
1. กำหนดงบประมาณที่แน่ชัด.
คุณควรจะกำหนดงบประมาณในการซื้อรถจักรยานเสือภูเขาไว้ในใจ เพื่อที่คุณจะได้ควบคุมค่าใช้จ่ายบวกลบเวลาที่เข้าไปเลือกซื้อจริงๆ ทั้งหมดนี้รวมถึงราคาอุปกรณ์ต่างๆที่อาจจะต้องซื้อเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงตาม ความต้องการของคุณ ควรเลือกซื้อกับร้านค้าที่ใกล้บ้านของคุณก่อน ก่อนที่เลือกซื้อกับร้านค้าออนไลน์หรือสโตร์ใหญ่ๆทั่วไป เพราะว่าร้านค้าเหล่านี้จะมีส่วนลดหรือราคาที่ถูกกว่า อีกประการหนึ่งคุณสามารถต่อรองราคาได้ และสามารถสั่งเพิ่มเติมหรืออัพเกรด เปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ได้ หากเลือกซื้อจากร้านสโตร์ เช่น ห้างสรรรพสินค้า คุณจะไม่สามารถเลือกต่อรองราคาที่สมเหตุสมผลได้เลย
2. เลือกสไตล์ที่คุณต้องการ
จักรยานเสือภูเขาถูกออกแบบบมาเพื่อใช้งานหลายชนิดแตกต่างกัน คุณจะต้องค้นหาสไตล์ไหน การขับขี่แบบไหนที่ถูกใจคุณมากที่สุด เช่น แบบทางเรียบ (smooth trail riding), ครอส-โรด (Cross-road), แบบวิบาก ขึ้น-ลงเขา (all mountain cruising) เพราะว่าราคาของจักรยานจะแตกต่างไปตามประเภทการใช้งาน และเพือความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
3. ระบบช็อค-อัพ แบบเต็มรูปแบบ (Full suspension) หรือว่า แค่ช็อคหลัง (Hardtail)
เราแนะนำว่า ให้คุณเลือกซื้อแบบรูปแบบ คือมีช็อคอัพ ทั้งด้านหน้า-หลัง ถ้าหากว่าคุณมีงบประมาณเพียงพอที่จะซื้อได้ มันช่วยให้คุณบังคับรถได้ง่ายและสบายกว่า แบบ ช็อคด้านหลัง เพืยงอย่างเดียว ระบบช็อคเดียว (Hardtail) อาจจะมีน้ำหนักเบา ขับขี่ได้คล่อง แต่ว่าในความคิดของเรามันก็ยังสู้แบบ ช็อคหน้า-หลังไม่ได้อยู่ดี
4. ระบบเบรคแบบ ดิสก์เบรค (Disc brakes) หรือ แบบก้ามปู (Rim brake) ดี?
ดิสก์เบรค (Disc brakes) มีประสิทธิภาพดีมากกว่าเบรคแบบก้ามปู (Rim brake) ไม่ต้องการการดูแลมาก ซึ่งเบรคแบบก้ามปูจะมีข้อบกพร่อง หรือทำงานได้ไม่ดีพอในสภาพเปียกน้ำ หรือเต็มไปด้วยโคลน แต่มีข้อดีตรงที่น้ำหนักเบา
แต่อย่างไรก็ตาม, ดิสก์เบรค มักจะมีน้ำหนักมากกว่า เบรคก้ามปู ประมาณ 150-350 กรัม ขึ้นอยู่กับ ขนาดล้อ, ขอบ, ฮับและระบบดิสก์เบรคที่คุณเลือก นอกจาก หากคุณต้องการเปลี่ยนจากระบบเบรคหนึ่ง ไปยังระบบเบรคหนึ่ง คุณจะต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งเซต เพราะระบบเบรคแต่ละประเภทจะไม่รองรับล้อ หรือขอบล้อของเบรคอีกประเภทหนึ่ง ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อควรตัดสินใจให้แน่นอนว่าต้องการเบรคแบบไหน
5. สปีด หรือ ระดับเกียร์
ปัจจุบันนี้มีเกียร์มากมายหลายสปีด ซึ่งจริงๆแล้ว ผู้ขับขี่จักรยานมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถึงคุณจะมีจักรยาน 24-27 สปีด คุณจะใช้มันไม่ครบ อาจจะใช้ได้เพียง 15-16 อัตราทดเท่านั้น ซึ่งการขับขี่ก็จะต้องมีเทคนิคด้วย ผู้ขับขี้จะต้องรู้ว่า ตอนนี้ตนใช้เกียร์ใดหรือแถวโซ่อยู่ด้านใด การเปลี่ยนเกียร์จากหน้าไปในสุด หรือจากจานหน้าใหญ่สุด ไปหลังใหญ่สุด จะเสียงต่อขาตีนผีถูกบิดจนโก่งงอ นอกเรื่องไปมากแล้ว กลับมาระบบเกี่ยร์ที่คุณควรจะเลือกซื้อต่อ จากรายละเอียดข้างบน คุณต้องการสปีดเท่าไหร่ แบบไหน อยู่ในงบหรือไม่ ควรพิจารณาถึงความเหมาะสมกับความต้องการของคุณ
6. ทดลองขี่
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนการจะเลือกจักรยานคู่ใจ ก็ควรจะทดสอบว่า มันเหมาะกับความต้องการของคุณหรือไม่ เบรคเป็นอย่างไร ขณะปั่นถูกใจหรือไม่ คุณสามารถทดสอบได้ด้วยตัวของคุณเอง
จบลงแล้วสำหรับการเลือกซื้อรถจักรยานเสือภูเขา
ไม่ว่าจะแบบไหนรุ่นไหนดีหมดครับอยู่ที่เรามากกว่าว่าชอบแบบไหนและกำลังทรัพย์พอแค่ไหนบางยี่ห้อบางรุ่นก้อโค-ตะระแพง(แสนแพง)เอาเป็นว่าตามกำลังทรัพของเราล่ะกันครับ ซื้อแล้วไม่เดือดร้อนซื้อไปเถอะแต่ถ้าหาที่ซื้อไม่ได้บอกผม ครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น